อินเดียถือเป็นประเทศหนึ่งในโลกที่นิยมการดื่มชามากที่สุด โดยชาอินเดียแท้ๆ นั้นจะมีรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างจากชาของประเทศอื่นๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากชาวอินเดียนั้นนิยมใส่เครื่องเทศ อย่างเช่น กระวาน กานพลู อบเชย ขิง เม็ดพริกไทยดำ เม็ดยี่หร่า เป็นต้น
และเมื่อปี 2013 รัฐบาลอินเดียได้ประกาศให้ชาเป็นเครื่องดื่มประจำชาติ เพราะการดื่มชาของชาวอินเดียนั้นจะดื่มชาได้ทุกเวลา แต่จะเน้นไปช่วงหลังอาหาร เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร แตกต่างจากชาวจีนที่มักจะนิยมดื่มระหว่างมื้ออาหารแทนน้ำเปล่า อีกทั่งชาวอินเดียยังดื่มชาในทุกๆ โอกาส อย่าง ในวันปีใหม่ ต้อนรับแขกผู้มาเยือน เป็นต้น โดยชาที่นิยมไปทั่วโลกของอินเดียมีอยู่ 3 ชนิดด้วยกันก็คือ ชาอัสสัม (Assam) ชาดาร์จิลิ่ง (Darjeeling) และชานิลคีรี (Nilgiri) การปลูกชาอัสสัมในอินเดียมีมากกว่า 70,000 แห่ง ทำให้เป็นสิ่นค้าอันดับต้นในตระกูลชา แต่ในขณะเดียวกันชาดาร์จิลิ่งมีการปลูกน้อยกว่าจึงให้ผลผลิตต่อปีต่ำ ชาดาร์จิลิ่งจึงมีราคาสูง และเป็นยังชาชั้นเลิศชนิดหนึ่งของโลกอีกด้วย และในอินเดียมีการดื่มชาที่เรียกว่า กาแรมไจ มาซาลา (Garam Chai Masala) เป็นการนำชามาต้มใส่กับเครื่องเทศต่างๆ และนม โดยวิธีการทำก็ไม่อยาก เพียงแค่เตรียมเครื่องเทศจำพวก พริกไทดำ ลูกกระวาน กานพลู อบเชย ขิง เป็นต้น เอามาตำให้พอแตกแล้วต้มใส่นม จากนั้นก็กรองใส่แก้ว ชาที่ได้จะมีสีเหมือนนมเย็นทั่วไป
ซึ่งชาอินเดียแท้ๆ จะค่อนข้างหาดื่มได้ยากในประเทศไทยและมีราคาสูง เพราะคนไทยมีนิสัยชอบทานอาหารที่มีรสชาติ จึงทำให้ชาที่คนที่ไทยชอบดื่มเลยก็คือชานมเย็นแก้วละ 15 – 20 บาท เพราะหาซื้อง่ายและไม่ต้องเสียเวลาชงเอง